วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

biog , facebook , hi 5

Blog มาจากศัพท์คำว่า WeBlog บางคนอ่านคำ ๆ นี้ว่า We Blog บางคนอ่านว่า Web Log แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้งสองคำบ่งบอกถึงความหมายเดียวกัน ว่านั่นคือบล็อก (Blog)

ความหมายของคำว่า Blog ก็คือการบันทึกบทความของตนเอง (Personal Journal) ลงบนเว็บไซต์ โดยเนื้อหาของ blog นั้นจะครอบคลุมได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวส่วนตัว หรือเป็นบทความเฉพาะด้านต่าง ๆ เช่น เรื่องการเมือง เรื่องกล้องถ่ายรูป เรื่องกีฬา เรื่องธุรกิจ เป็นต้น โดยจุดเด่นที่ทำให้บล็อกเป็นที่นิยมก็คือ ผู้เขียนบล็อก จะมีการแสดงความคิดเห็นของตนเอง ใส่ลงไปในบทความนั้น ๆ โดยบล็อกบางแห่ง จะมีอิทธิพลในการโน้มน้าวจิตใจผู้อ่านสูงมาก แต่ในขณะเดียวกัน บางบล็อกก็จะเขียนขึ้นมาเพื่อให้อ่านกันในกลุ่มเฉพาะ เช่นกลุ่มเพื่อน ๆ หรือครอบครัวตนเอง

มีหลายครั้งที่เกิดความเข้าใจกันผิดว่า Blog เป็นได้แค่ไดอารี่ออนไลน์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไดอารี่ออนไลน์เปรียบเสมือน เนื้อหาประเภทหนึ่งของบล็อกเท่านั้น เพราะบล็อกมีเนื้อหาที่หลากหลายประเภท ตั้งแต่การบันทึกเรื่องส่วนตัวอย่างเช่นไดอารี่ หรือการบันทึกบทความที่ผู้เขียนบล็อกสนใจในด้านอื่นด้วย ที่เห็นชัดเจนคือ เนื้อหาบล็อกประเภท วิจารณ์การเมือง หรือการรีวิวผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ตัวเองเคยใช้ หรือซื้อมานั่นเอง อีกทั้งยังสามารถ แตกแขนงไปในเนื้อหาในประเภทต่าง ๆ อีกมากมาย ตามแต่ความถนัดของเจ้าของบล็อก ซึ่งมักจะเขียนบทความเรื่องที่ตนเองถนัด หรือสนใจเป็นต้น

จุดเด่นที่สุดของ Blog ก็คือ มันสามารถเป็นเครื่องมือสื่อสารชนิดหนึ่ง ที่สามารถสื่อถึงความเป็นกันเองระหว่างผู้เขียนบล็อก และผู้อ่านบล็อกที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ที่ชัดเจนของบล็อกนั้น ๆ ผ่านทางระบบ comment ของบล็อกนั่นเอง

ประวัติ facebook

เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2548 Mark Zuckerburg ได้เปิดตัวเว็บไซต์ facebook ซึ่งเป็นเว็บประเภท social network ที่ตอนนั้น เปิดให้เข้าใช้เฉพาะนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดเท่านั้น และเว็บนี้ก็ดังขึ้นมาในชั่วพริบตา เพราะแค่เพียงเปิดตัวได้สองสัปดาห์ ครึ่งหนึ่งของนักศึกษาที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ก็สมัครเป็นสมาชิก facebook เพื่อเข้าใช้งานกันอย่างล้นหลาม และเมื่อทราบข่าวนี้ มหาวิทยาลัยอื่น ๆ ในเขตบอสตั้นก็เริ่มมีความต้องการ และอยากขอเข้าใช้งาน facebook บ้างเหมือนกัน มาร์คจึงได้ชักชวนเพื่อของเค้าที่ชื่อ Dustin Moskowitz และ Christ Hughes เพื่อช่วยกันสร้าง facebook และเพียงระยะเวลา 4 เดือนหลังจากนั้น facebook จึงได้เพิ่มรายชื่อและสมาชิกของมหาวิทยาลัยอีก 30 กว่าแห่ง

ไอเดียเริ่มแรกในการตั้งชื่อ facebook นั้นมาจากโรงเรียนเก่าในระดับมัธยมปลายของมาร์ค ที่ชื่อฟิลิปส์ เอ็กเซเตอร์ อะคาเดมี่ โดยที่โรงเรียนนี้ จะมีหนังสืออยู่หนึ่งเล่มที่ชื่อว่า The Exeter Face Book ซึ่งจะส่งต่อ ๆ กันไปให้นักเรียนคนอื่น ๆ ได้รู้จักเพื่อน ๆ ในชั้นเรียน ซึ่ง face book นี้จริง ๆ แล้วก็เป็นหนังสือเล่มหนึ่งเท่านั้น จนเมื่อวันหนึ่ง มาร์คได้เปลี่ยนแปลงและนำมันเข้าสู่โลกของอินเทอร์เน็ต

บางคนก็ใช้ติดต่อเพื่อน บางคนก็บอกว่าเล่นเกมได้ บางคนก็ใช้ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์

หลากหลายเหตุผล จนเราคิดว่า เออ ไม่น่าจะพลาดกระแสนี้กับเขา อยากจะมี account facebook บ้าง
ไม่ยากครับ ลองอ่านบทความ วิธีการสมัคร facebook สำหรับ มือใหม่ ทุกท่าน แล้วรับรองว่า ได้ใช้งาน facebook กันอย่างแน่นอน

แต่สิ่งที่ท่านต้องมีก่อน จะสมัคร มีดังต่อไปนี้นะครับ
1.
อีเมล์ที่ใช้งานได้จริง
2.
ประวัติส่วนตัว ของตัวเอง
3. Computer
ที่สามารถต่อ อินเตอร์เน็ตได้ (จะเป็น notebook ก็ได้นะครับ ไม่ว่ากัน)
4.
ตัวคุณเองนั่นแหละครับ

เอาล่ะ พร้อมหรือยังครับ ไปกันเลย!

1.เข้าไปที่หน้าแรก ของ facebook คุณจะเห็นหน้าเว็บอันสวยงาม อย่าเพิ่งมัวตะลึงนะครับ ให้ click ปุ่ม Sign Up เข้าไปเลย เพื่อเริ่มต้นขั้นตอนการสมัคร เอา account ของ facebook

2. ต่อไปก็กรอกชื่อของคุณนะครับ พร้อมกับอีเมล์ที่ใช้งานได้จริง ที่อยู่ วันเกิด และอย่าลืมใส่สถานะด้วยนะครับ ว่ากำลังเรียนอยู่ หรือ ทำงานแล้ว ใน Section “I am”

3. ต่อไปก็เลือก รหัสผ่าน ตอนกรอกก็อย่าตั้งให้ง่ายๆ จำได้ หรือจะตั้งยากๆ แต่ก็ต้องจำให้ดีๆ ละครับ ขอให้มีตัวอักษร 6 ตัวขึ้นไป ก็พอแล้วครับ

4. ขั้นตอนต่อมา ก็ให้ใส่ตัวอักษรตามภาพที่เห็นนะครับ (อาจจะยากหน่อย แต่ทำมาเพื่อกันการ Spam จากคนไม่หวังดี ชอบมา register มั่วๆ) เห็นยังไง ก็พิมพ์ไปตามนั้นครับ ออกแนวยึกยือพอสมควร

5. ก็เหมือนการสมัครใช้บริการทาง internet ทั่วๆไป ครับ หากมีเวลาก็ลองอ่าน Terms of User และ Privacy Policy (ที่คนเราไม่ค่อยจะอ่านกันนัก) ถ้าคิดว่ายาวจัด และจะมาอ่านวันหลัง ก็ให้ติ๊กถูกยอมรับ ข้อบังคับนี้ไปก่อนเลยครับ (ใส่ทั้งสองอันเลยนะครับ)

6.ปราการด่านสุดท้าย ก็คือ การกดปุ่มสมัคร ครับ กดไปเลย ถ้ามั่นใจทำได้ทุกอย่าง กดได้เลยครับ “Sign Up Now!” (อยู่ด้านล่างๆ ของหน้าสมัครนะ

ครับ) หลังจากนั้น ก็รอให้ ระบบหาเราไปยังหน้าแสดงขอบคุณ (ก็ได้สมาชิกใหม่อย่างเราไป ก็ต้องมีขอบคุณเป็นธรรมดา)

ปล หากเราพลาดใส่ข้อมูลในส่วนใหนไป ระบบจะแสดงข้อความ ให้เรากลับไปกรอกในส่วนที่ขาด หรือ ระบบต้องการอีกครั้ง อย่าตกใจนะครับ เพราะ

ว่าเขาจะบอกอย่างชัดเจน ว่าขาดอะไรบ้าง ใส่ไปให้ครบ แล้วจะสมัครได้เองครับ

7. เอาล่ะ หลังจากตกลงปลงใจ เป็นส่วนหนึ่งใน network ของ facebook แล้ว ก็ไปเช็คเมล์ยืนยัน ที่ส่งมาโดยอัตโนมัติ หลังการสมัคร
หากจะถามว่า อีเมล์ใหน ก็อีเมล์ที่เราใช้ในสมัครในแบบฟอร์มเมื่อกี้แหละครับ

เมื่อหาเจอแล้ว ให้คลิก link ซึ่งทาง facebook ได้ส่งมาให้ เพื่อทำการ activate หากว่าเปิดใน inbox แล้วไม่เจอ ลองไปหาใน กล่อง junk mail

นะครับ เพราะบางครั้ง อีเมล์ อาจจะมองว่า อีเมล์ยืนยันนี้ เป็น Spam mail ก็เป็นได้

ครบถ้วนทุกขั้นตอนแล้ว ก็จะได้พบเพื่อนใหม่ๆ ใน facebook แล้วนะครับ
เอาล่ะ สมัครกันให้ผ่านทุกคนนะครับ

Hi5 คืออะไร?

Hi5 เป็นระบบอินเตอร์เน็ตออนไลน์ที่มีการเชิญเพื่อนจากรายชื่อเพื่อนในอีเมล ต่างๆสมัครเข้ามาเป็นเพื่อนของเรา โดยระบบจะทำการแอดเมล์เพื่อนให้ รูปแบบทั่วไปภายใน Hi5 จะมีทั้งการโชว์รูปภาพ เพื่อฟรีเซ็นต์ตัวเอง เราได้แสดงความเป็นตัวตนของเราอย่างภาคภูมิใจ ด้วยการสร้างและตกแต่ง Hi5 ของเราด้วย ของแต่ง Hi5 ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ , Skin ,Wallpaper , ดุ๊กดิ๊ก , Cursor , ภาพเคลื่อนไหว และของแต่ง Hi5 อื่นๆ อีกมากมายมีพื้นที่ให้เขียนเรื่องราวส่วนตัวด้วย
วิธี สมัครก็ทำได้ด้วยวิธีง่ายๆคือคลิกเข้าไปที่ www.hi5.com คลิกที่ปุ่ม Sign Up ระบบจะถามชื่อและรหัสผ่านให้ใส่ไปตามที่สมาชิกต้องการระบบจะลิงห์ข้อมูลเข้า ไปในอินเตอร์เน็ตทั่วโลก หรือใครได้รับ
อีเมล จากเพื่อนชวนไปสมัครยิ่งเร็วมากขึ้น เพราะระบบออนไลน์จะทำการหาเพื่อนให้มาเป็นสมาชิก และยังมีรายชื่อสมาชิกคนอื่นๆ อยู่ในลิสต์เพียงเรา แค่คลิกคำว่า “ Add” สมาชิกคนอื่นๆ ก็จะมาเป็นเพื่อนกับเราได้โดยอัตโนมัติ หรือถ้าเราสมัครตรงจากเว็บ Hi5 ระบบนี้ก็จะไปเชิญชวนเพื่อนๆ และคนรู้จักของเพื่อนๆ มาเป็นเพื่อนเราเหมือนกัน

Hi5 เป็นเหมือนตู้ ปณ.อย่างหนึ่งที่วัยรุ่นใช้เขียนข้อความส่งถึงกัน และเมื่อใครได้รับข้อความจากเพื่อนก็จะส่งข้อความตอบกลับเพื่อนสลับกันไปมา
Hi5
เข้ามาในประเทศไทยเมื่อปี พ.. 2546 ขณะนั้นยังไม่มีลูกเล่นหรือการตกแต่งที่หลากหลาย เป็นเพียงพื้นที่ว่างสำหรับโชว์รูปภาพเพียงอย่างเดียว แต่ในปีพ.. 2550 ที่ผ่านมา Hi5ได้รับความนิยมสูงสุด ทางเว็บไซต์ที่เป็นเจ้าของจึงปรับโฉมใหม่ให้ Hi5 ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้นโดยเพิ่มมัลติมีเดีย มีสไลด์โชว์รูป ลงคริปวีดีโอ เขียนไดอารี่ และคอมเมนท์รูปภาพเข้าไปให้วัยรุ่นเข้าไปเล่นมากขึ้น และเป็นช่องทางขายสื่อโฆษณาภายในเว็บไซต์ไปด้วยซึ่งธุรกิจนี้กำลังเป็นที่ จับตามองของนักลงทุนหลายราย



« เมื่อ: ตุลาคม 04, 2008, 01:09:49 pm »


ขั้นตอนและวิธีการสมัคร hi5 นั้นง่ายมากๆ มาเริ่มกันเลย

1.)
เข้าไปที่เว็บไซต์ www.hi5.com
2.)
คลิกที่ปุ่ม Sign Up เพื่อสมัครค่ะ



3.)
จะพบว่ามีหน้าให้กรอกรายละเอียดอยู่ 3 หน้า ให้กรอกรายละเอียดให้ครบ ดังนี้
-
หน้าแรกหัวข้อ Name & E-mail ให้กรอก ชื่อ-นามสกุล , อีเมล์ และ ตั้งรหัสผ่าน

- หน้าที่ 2 Personal Information หรือ ข้อมูลส่วนตัว เลือกข้อมูลส่วนตัว ดังนี้ เพศ , วันเกิด , ภาษาที่ใช้(English) , ประเทศที่เราอยู่ , เมืองที่เราอยู่

- หน้าที่ 3 Upload A Photo หรือ การเลือกรูปแทนตัวเราค่ะ คลิกปุ่ม Browse เพื่อเลือกรูปแทนตัวเรา ซึ่งไฟล์รูปต้องเป็นไฟล์ นามสกุล jpg , gif , .bmp หรือ png และขนาดไฟล์รูปภาพต้องไม่เกิน 10 MB เรียบร้อยแล้วคลิกที่ปุ่ม Upload ค่ะ













ไม่มีความคิดเห็น: